เที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน-พฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เดือนกันยายน - ตุลาคม - พฤศจิกายน 

 

ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นหนึ่งในธรรมชาติสวยงามที่น่าไปเยี่ยมญี่ปุ่นบ่อยครั้งที่สุด ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีชอบอากาศเย็นซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีมาจากฮอกไกโดะแล้วไปจบที่โอกินะวะ .....

อากาศในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้นเย็นถึงเย็นมาก แล้วแต่ภูมิประเทศ ซึ่งบนเขาอากาศจะเย็นใบไม้จะเปลี่ยนสีเร็วกว่าด้านล่าง 

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยสุดๆ ที่นักท่องเที่ยวไปก็จะเป็นภูมิภาคโทโฮะกุ ในช่วงปลายเดือนต.ค. และภูมิภาคคันโต เช่น โตเกียว และภูมิภาคคันไซ เช่น เกียวโตในช่วงปลายเดือนพ.ย. ต่อต้นเดือนธ.ค.

ช่วงเวลาที่สวยงาม และสุดแสนโรแมนติคอีกครั้งหนึ่งของญี่ปุ่น ก็คือฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพราะตามหุบเขา ธรรมชาติของญี่ปุ่น จะเต็มไปด้วยต้นไม้ที่พร้อมใจกันเพิ่มความงดงามให้กับขุนเขา แต่แข่งขันกันอวดสีสันของใบไม้ เป็นมนต์เสน่ให้นักท่องเที่ยว ทั้งหลายต่างหลงใหล และติดใจ อยากจะมาชมความงดงามในทุกๆ ปี ถึงแม้ว่า ต้นไม้ทุกต้นในญี่ปุ่นจะพร้อมใจกันเปลี่ยนกันเปลี่ยนสี ในทุกพื้นที่ หรือทุกๆ เมืองของญี่ปุ่น แต่ถ้าหากท่านได้ไปชมความงดงาม ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ อย่างภูเขา ท่านจะได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น หรือเขตโทโฮกุ และเส้นทาง Kurobe Alpine Route หรือรู้จักกันเป็นอย่างดีอีกชื่อหนึ่งคือ Japan Alp นั่นเอง ตั้งอยู่ในเขตจูบุ ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งการเดินทางยังมีความน่าตื่นเต้น ลัดเลาะไปตามขุนเขา หรือจะนั่งกระเช้าไฟฟ้า เพิ่มอรรถรสในการชมธรรมชาติที่หุบเขาคุโรเบะได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ท่านยังจะได้พบเห็นน้ำตกที่สวยงาม และเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่ รับรองได้ว่า ท่านจะประทับใจในทริปนี้ของท่านอย่างแน่นอน

 
10 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม


 

อันดับ 10 Shiretoko Goko 知床五湖(しれとこごこ)จังหวัด Hokkaido

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนตุลาคม



อุทยานแห่งชาติชิเระโตโกะ (Shiretoko) ตั้งอยู่บนเกาะฮอกไกโด ชื่อของอุทยานฯ มาจากภาษาไอนุ ซึ่งหมายถึง “จุดสุดขอบโลก” ครอบคลุมพื้นที่ 386.33 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะเป็นคาบสมุทรยื่นออกไปในทะเลโอค็อตสค์ประมาณ 65 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยเทือกเขาและยอดเขาสูงที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้อันอุดม จึงได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกทางธรรมชาติแห่งใหม่ล่าสุดของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.2005 ด้วยความอุดมของพรรณไม้นานาชนิด สภาพทางภูมิศาสตร์ และสัตว์นานาชนิด อาทิเช่น นกอินทรีย์ทะเลหางขาว สุนัขจิ้งจอก และหมีสีน้ำตาล อุทยานแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของทะเลสาบเล็กๆ อีก 5 แห่ง อันเงียบสงบและแวดล้อมไปด้วยต้นไม้อายุนับร้อยปี   
 


 

อันดับ 9 Risshaku-Ji  立石寺(りっしゃくじ)จังหวัด Yamagata

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน



วัดริชชะกุ (Risshaku-ji) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า ยามะเดระ (Yamadera) แปลว่า วัดบนภูเขา หรือเรียกอีกอย่างว่า “วัดบันไดพันขั้น”  อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดยามากาตะ เป็นหนึ่งในวัดที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคโทโฮขุ วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 860 บริเวณวัดตั้งอยู่บนเนินหินสูงของ ภูเขาโอจู-ซัง  จึงเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแวดล้อมไปด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนกันมากมาย ภายในวัดอุดมไปด้วยต้นไม้โบราณที่มีอายุนับร้อยปี และยังมีถ้ำหินก้อนหินรูปร่างวิจิตรพิสดารที่ถูกกัดเซาะโดยลมและน้ำเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาคารไม้ต่างๆ ที่ปลูกสร้างภายในวัด
 


 

อันดับ 8  Takaosan 高尾山(たかおさん)Hachioji, Tokyo,

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน



ทาคาโอะซัง (Takaosan) เป็นยอดเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 599 เมตร เป็นหนึ่งในพื้นที่นันทนาการที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมาที่สุดสำหรับคนเมืองหลวง  เพราะภูเขาลูกนี้ตั้งห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวเพียง 50 นาทีเท่านั้น   สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วถือว่าเป็นภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์กลางของการบูชา “เทงกุ” (Tengu)  เทพเจ้าแห่งความโชคดี มีจมูกยาว และมีจงอยปากเหมือนอีกา สามารถพบได้ที่วัด Yakuoin ที่ตั้งอยู่ด้านบนยอดเขา ภูเขาแห่งนี้เป็นที่นิยมในการเดินชมความงามของธรรมชาติ  ซึ่งมีเส้นทางจัดเตรียมไว้อยู่ถึง 3 เส้นทาง และมีรถกระเช้าไฟฟ้าสำหรับขึ้นไปด้านบน โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีผู้คนเข้าไปเที่ยวภูเขาลูกนี้เป็นจำนวนมาก 
 


 

อันดับ 7 Arashiyama 嵐山(あらしやま)Kyoto  

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน



อะราชิยามะ (Arashiyama) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองเกียวโต โดยในอดีตเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนชมธรรมขาติของชนชั้นสูงในสมัยเฮอัน ช่วงปี ค.ศ. 794 - 1185 จนมาถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมเช่นนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทั่วทั้งเทือกเขาของอะราชิจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสีเหลือง ส้ม และแดง สอดแทรกปะปนรวมกันอยู่ทั่วทั้งเทือกเขา โดยจุดที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่อีกอย่าง คือ สะพานโทเกตสึ “Togetsu-kyo” สะพานไม้ที่สร้างข้ามแม่น้ำโฮโซ และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันมาก 
 

 


 

อันดับ 6 Kamikochi 上高地(かみこうち)Matsumoto, Nagano

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ต้นเดือนตุลาม 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ตั้งแต่กลางเดือนถึงปลายเดือนตุลาคม



ที่ราบสูงคามิโคจิ (Kamikochi) เป็นแหล่งชมเทือกเขาสูงและสายธาราใสบริสุทธิ์ในทุกฤดูกาล ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโน่ติดกับเขตแดนของจังหวัดไอจิ  “คามิโคจิ”  ถือเป็นมงกุฎอัญมณีแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น  จุดชมทัศนียภาพอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร  มีฉากหลังอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น และความงดงามของแม่น้ำอาซูสะสีฟ้าอมเขียวอยู่เบื้องล่าง สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เดินป่าที่ได้รับความนิยมมากจุดเริ่มต้นจะเริ่มที่ “สะพานคัปปะ” สะพานอันเป็นสัญลักษณ์ของคามิโคจิ ปลายสายของแม่น้ำจะอยู่ที่สระน้ำไทโช ผืนน้ำที่สะท้อนกับเทือกเขาโฮทากะก่อให้เกิดภาพสะท้อนที่งดงามอย่างสมบูรณ์แบบ 
 


 

อันดับ 5 Takachiho-kyo 高千穂峡(たかちほきょう)Takachiho, Miyazaki

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ตั้งแต่กลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน



ทาคาจิโฮ (Takachiho Gorge) ตั้งอยู่ในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดมิยาซากิ ในใจกลางของเทือกเขาของเกาะคิวชู เป็นเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศต้นไม้ที่เขียวขจี ผ่านหมู่บ้านที่ชื่อ Yakagura  ซึ่งจะมีน้ำตกที่สวยงามที่ขื่อ Gokase-gawa  ซึ่งเป็นน้ำตกสูงชัน ตกจากหน้าผา จะไหลจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง และ Gorge Takachihoเป็นหุบเขารูปตัววี ซึ่งกัดกร่อนจากลาวาที่มีสีแดง มีหน้าผาสูงชัน 17 เมตร มีทางเดินยาว 600 เมตรยาว ซึ่งตลอดเส้นทางจะได้เห็น ดอกไม้ภูเขา เชอร์รี่ และดอกไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเหล่าใบไม้จะเป็นสีแดงและจะเป็นสีเหลืองสวยจนจับจ้องใจ  
 


 

อันดับ 4 Nara Park 奈良公園 (ならこうえん)Nara

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม



สวนสาธารณะนาระ (Nara Park) มีพื้นที่กว้าง 2 กิโลเมตร ยาว 4 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองติดกับเชิงเขาวาคาคุสะยาม่า (Wakakusa-yama) สร้างขึ้นเมื่อในปี ค.ศ.1880  ให้เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองเก่าแห่งนี้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่งดงามทางทัศนียภาพ “อนุสาวรีย์ทางธรรมชาติ”  กำหนดโดยกระทรวงการศึกษาวัฒนธรรมกีฬาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น (MEXT)  เพราะภายในพื้นที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีในช่วงฤดูร้อน และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญของเมืองนาระในฤดูใบไม้ผลิ  ซึ่งบริเวณใกล้ๆ ของสวนสาธารณะยังเป็นสถานมรดกโลกของวัดโทไดจิ (Todaiji) วัดโคฟุกุจิ (Kofukuji) และศาลเจ้าคาสุกะไทซะ (Kasuga Taisa) โดยมีฝูงกวางอาศัยอยู่อย่างอิสระ และมีโคมหินเรียงอยู่กว่า 20,000 ต้น เป็นฉากหลังสะท้อนตัวตนความเป็นเมืองเก่าได้อย่างเยี่ยมยอดเลยทีเดียว 
 


 

อันดับ 3 Miyajima 宮島(みやじま)Hatsukaichi, Hiroshima

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ตั้งแต่กลางเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน



มิยาจิมะ (Miyajima) ซึ่งหมายถึงเกาะแห่งศาลเจ้า เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใน Seto Inland Sea จังหวัดฮิโรชิม่า  เป็นส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติเซโตะไนไก  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ” (Itsukushima) ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นบนเกาะแห่งนี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 เพื่อบูชาเทพีแห่งท้องสมุทรทั้งสาม (ธิดาของเทพอะมาเทราสึ)  มีสัญลักษณ์ที่สำคัญคือ ซุ้มโทริอิขนาดใหญ่สีแดงสดตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล  นับเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และทิวทัศน์ของเสาประตูที่อยู่หน้าภูเขามิเซนบนเกาะ ยังได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น (Three Views of Japan) บนเกาะนี้มียอดเขามิเซ็น (Mount Mizen) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดบนเกาะ สูง 530 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ซึ่งสามารถพิชิตยอดเขาแห่งนี้ได้โดยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไป  ถือว่าเป็นจุดวิวทิวทัศน์ความสวยงามของธรรมชาติ  ระหว่างฝืนน้ำกับท้องฟ้าสีครามโอบล้อมด้วยทิวเขาลดหลั่นกันลงไปด้านล่าง
 


 

อันดับ 2 Isejinguu-Naiku Shinen 伊勢神宮内宮神苑(いせじんぐうないくうしんえん)Ise, Mie

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม



ศาลเจ้าอิเสะ “Ise Jingu”  ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ ถือเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความเคารพและความศรัทธาจากชาวญี่ปุ่นมากที่สุด เพราะเป็นที่สถิตของเทพสูงสุด  “Amaterasu Omikami” (เทพีแห่งดวงอาทิตย์) ผู้เป็นบรรพบุรุษ และผู้ปกปักษ์รักษาชาวญี่ปุ่นให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ภายในบริเวณจุดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ในสถานที่แห่งนี้ คือ ศาลเจ้าส่วนใน หรือ Naiku Shinen  มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Katai Jingu ถูกสร้างขึ้นราว 2,000 ปีมาแล้ว  จุดเด่นของศาลเจ้าส่วนในประการหนึ่งก็คือสะพาน Ujibashi ความยาวประมาณ 100 เมตร สำหรับข้ามแม่น้ำอิซูซุ (Isuzu-gawa) ถือเป็นสะพานสำคัญ เพราะเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนศักดิ์สิทธิ์  และเป็นจุดชมธรรมชาติที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของศาลเจ้าแห่งนี้ 
 


 

อันดับ 1 Kenrokuen  兼六園(けんろくえん)Kanazawa, Ishikawa

 

ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี : ต้นเดือนพฤศจิกายน 
ช่วงที่เหมาะสมกับการชมใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม



สวนเคนโระคุ (Kenrokuen) ตั้งอยู่ในเมืองคานาซาว่า จังหวัดอิชิคาว่า ถือเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนและความงดงามหาที่ไหนมาเปรียบเทียบได้ ซึ่งสวนแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสวนของขุนนางศักดินาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น  ภายในบริเวณสวนประกอบไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เนินเขา และสระน้ำขนาดใหญ่เรียกว่า “Kasumigaike” เปรียบได้กับทะเลเปิด และเกาะซึ่งเชื่อว่ามีฤๅษีอมตะที่มีพลังพิเศษอาศัยอยู่ ถูกสร้างขึ้นในสระด้วยความหวังที่จะมีชีวิตยืนยาว รวมถึงมีความเจริญรุ่งเรืองในลาภยศKenrokuen หมายถึง “ปัจจัย 6 ประการ” สาเหตุที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากคุณสมบัติ  6 ประการ ที่ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่งดงามสมบูรณ์แบบของสวนแห่งนี้ คือ  ขนาดใหญ่, สงบม มีลูกเล่น, ความเก่าแก่, ทางน้ำไหล และทัศนียภาพจากในสวน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับดอกไม้และต้นไม้แสนสวย เช่น ดอกต้นพลัมและซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกอาซาเลียและไอริซในช่วงต้นฤดูร้อน  รวมทั้งใบไม้สีแดงและเหลืองที่ตัดกับสีสันของต้นสนใบเขียว ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วง โดยสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติในแต่ละฤดู ทั้งพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พร้อมด้วย Yukitsuri (แปลว่า ที่แขวนหิมะ) ซึ่งพบเห็นได้ประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนของทุกปี วิธีการดูแลรักษากิ่งของต้นสนในสวนคือการพันเชือกเป็นทรงกรวยอย่างเป็นระเบียบเพื่อป้องกันไม่ให้กิ่งไม้หัก