ประเทศญี่ปุ่น JAPAN
ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ ซึ่งประกอบไปด้วยเกาะต่าง ๆ กว่า 6,800 เกาะ เรียงรายเป็นแนวยาวจากด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของมหาสมุทรแปซิฟิก และตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของโลก จึงเป็นที่มาของชื่อ "ดินแดนอาทิตย์อุทัย" ญี่ปุ่นมีขนาดเล็กกว่าไทยประมาณ 0.7 เท่า แต่มีประชากรมากกว่าประมาณ 2 เท่า
ญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะหลัก 4 เกาะคือ ฮอกไกโด ฮอนชู ชิโกกุ และคิวชิว
เกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ยังแบ่งเป็น 5 ภาค เรียงจากเหนือลงมาคือ โทโฮะกุ คันโต จูบุ คิงคิ และจูโงกุ มีจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมด 47 จังหวัด ( Prefecture ) แบ่งเป็นเมืองต่าง ๆ รวมทั้งหมดมากกว่า 650 เมือง โดยมีโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2411
เวลา
ประเทศญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
ภาษา
ประชากรญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาหลัก ส่วนภาษาอังกฤษตามสถานที่สำคัญ เช่น โรงแรม, สนามบิน, สถานที่ท่องเที่ยว หรือ ตาม เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลท่องเที่ยวสามารถพูดภาษาอังกฤษได้
เงินตรา
สกุลเงินญี่ปุ่น คือ เงินเยน ในท้องตลาดใช้ได้แต่เงินเยนเท่านั้น ดอลล่าร์สหรัฐแลกได้ตามธนาคาร และโรงแรม อัตราแลกเปลี่ยน 100 เยน = ประมาณ 36-38 บาท (ข้อมูลจาก ธนาคารกรุงเทพ ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2553)

ธนบัตร ประกอบด้วย ธนบัตรใบละ 1,000 2,000 , 5,0000 , 10,000 เยน
เงินเหรียญ ประกอบด้วย 1 , 5 , 10 , 50 , 100 , 500 เยน
ระบบไฟฟ้า
ญี่ปุ่น ใช้กระแสไฟฟ้า แบบ 110 V. (ไม่เหมือนประเทศไทย) ปลั๊กเสียบเป็นแบบ ขาแบน 2 ขา ฉะนั้นท่านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น กล้องวิดิโอ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องเป่าผม ควรมีปลั๊กแบบใช้ได้ทั่วโลก (Universal Adaptor) ติดตัวไปด้วย เพื่อความสะดวกของท่านกรุณาเตรียม ฟิล์มถ่ายรูป, แบตเตอร์รี่ ไปให้เพียงพอจากประเทศไทย

ตัวอย่างปลั๊กไฟในญี่ปุ่น
การใช้โทรศัพท์
บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ท่องเที่ยว ราคาเริ่ม 1,000 เยน
วิธีโทรกลับประเทศไทย
กรุงเทพฯ : กด 001-010-662 ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก
ต่างจังหวัด : กด 001-010-66 ตามด้วยรหัสเมืองโดยตัดศูนย์ออก-หมายเลขโทรศัพท์หกหลัก
ฟิลม์และกล้องถ่ายรูป
ควรเตรียมไปให้เพียงพอโดยเฉพาะฟิล์มเพราะที่ต่างประเทศราคาจะสูงมากโดยเฉพาะ ตามสถานที่ท่องเที่ยว และควรเตรียมถ่านใส่กล้องถ่ายรูปไปด้วยเพราะอากาศเย็นถ่านจะเสื่อมสภาพเร็ว
สิ่งที่ควรทราบ : เหตุฉุกเฉินติดต่อหมายเลข ตำรวจหมายเลข 110 / ดับเพลิง, รถพยาบาล 119 หน่วยงานตำรวจให้ข่าวสารภาษาอังกฤษทั่วไป 3501-0110 / แจ้งของหาย-รับของหายคืน 03-3814-4151 ในกรณีฉุกเฉิน ท่านใช้โทรศัพท์โดยไม่ต้องหยอดเหรียญ 10 เยน ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ เพียงแต่กดปุ่มสีแดงที่เครื่องโทรศัพท์ก่อนหมุนเรียก, หากท่านต้องการแพทย์หรือปฐมพยาบาล โปรดติดต่อโรงแรมที่เคาน์เตอร์รับแขกด้านหน้า
การให้ทิป
การให้ทิปในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
![]() | พระราชวังอิมพีเรียล พระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของพระจักรพรรดิและพระราชวงศ์ อาณาบริเวณหลายแห่งในพระราชวังจึงมิได้เปิดให้เข้าชม แต่บางส่วนจะเปิดให้เข้าชมได้ในช่วงวันหยุดพิเศษ ตัวพระตำหนักเป็นอาคารคอนกรีตทรงเตี้ยกว้างสร้างด้วยหินแกรนิตและบะซอลต์จาก ภูเขาไฟ คลุมด้วยหลังคาสีเขียว สร้างเสร็จในปี 1970 แทนพระตำหนักไม้หลังเดิมที่ถูกระเบิดในช่วงสงครามโลกในปี 1945 |
![]() | อาซากุสะ (Asakusa) สิ่งที่อยู่คู่กับย่านอาซากุสะและเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่คือ วัดเซ็นโซจิ หรืออาซากุสะคันนง(Asakusa Kannon) น่าจะเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโตและมีนักท่องเที่ยวนิยมมา เยือนกันแน่นขนัดทุกปี และซื้อของที่ระลึกซึ่งมีร้านรวงตั้งเป็นแถวยาวให้เลือกจับจ่าย จึงทำให้วัดแห่งนี้รุ่งเรืองและคึกคักด้วยผู้คน โดยเฉพาะช่วงดอกซากุระบานสะพรั่งริมแม่น้ำแห่งนี้ยิ่งสวยงามเหนือคำบรรยายจริงๆ |
![]() | ชินจูกุ (Shin-juku) ชินจูกุ (Shin-juku) ชินจูกุเป็นสถานีรถไฟที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นจุดเปลี่ยนต่อรถไฟทั้งสายในโตเกียวและวิ่งสู่ภูมิภาคต่างๆรวม ถึงรถไฟใต้ดินด้วย บริเวณ สถานีมีร้านค้าตั้งอยู่เรียงรายแน่นขนัดทั้งบนดินและใต้ดิน และยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่อีก4 แห่งให้เดินชอบปิ้งกันสุดเหวี่ยงไปเลยในแถบนั้น |
![]() | กินซ่า (Ginza) กินซ่านับเป็นย่านที่เลื่องชื่อไปทั่วโลกของญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่ง ด้วยร้านค้าแบรนด์เนมและโชว์รูมของสินค้าไฮเทคโนโลยีที่รู้จักกันทั่วโลก \"โซนี่" ยามค่ำคืนย่านแห่งนี้จะสว่างไสวด้วยแสงไฟจากหลอดนีออนและป้ายโฆษณา สถานบันเทิงต่างคึกคักทำให้ย่านนี้มีชีวิต ชีวา ถนนกินซ่าโดริ(Ginza Dori) หรือบางทีเรียกว่า ชูโอโดริ เป็นถนนสำคัญหนึ่งในสองสายที่ตัดผ่านกินซ่า สองฟากถนนเต็มไปด้วยห้องเสื้อทันสมัย แกลเลอรี่ศิลปะและห้างสรรพ สินค้าชั้นนำ จุดนัดพบยอดนิยมของโซนนี้ คือ หน้าตึกโซนี่ จะเห็นผู้คนมายืนเตร็ดเตร่สีหน้ารอคอยอยู่ด้านนอก ส่วนด้านในจะเป็นโชว์รูมสินค้าอิเล็กทรอนิคส์และโชว์รูมโตโยต้า |
![]() | ชิบุยะ (Shibuya) เป็นย่านทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศูนย์รวมของวัยรุ่นญี่ปุ่นมีทุกอย่างไว้ตอบ สนองวัยรุ่นที่มีกะตังค์ จึงทำให้ย่านนี้พลุกพล่านไปด้วยผู้คน ประตูทางออกของสถานีชิบุยะ ด้านตะวันตกเฉียงเหนือมีผู้นิยมใช้กันมากที่สุด ด้านนอกจะมีรูปปั้นของฮาจิ โกะ(Hachiko) สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่สร้างขึ้นในปี 1964 ผู้คนชอบนัดพบกันตรงบริเวณนี้ จาก ทางออกด้านนี้จะพบกับสี่แยกใหญ่ มองไปเบื้องหน้าจะพบกับอาคารชิบุยะ 109 (Shiuya109 building) ทรงกระบอกสังเกตเห็นได้ง่าย จากแยกนี้หากเดินเลี้ยวขวาขึ้นเนินมานิดนึงจะพบกับห้างโตเกียวให้เดินเตร็ด เตร่กัน |
![]() | ฮาราจูกุ (Harajuku) เป็นแหล่งรวมแฟชั่นทันสมัย เมื่อเดินเข้ามาบน Takeshita street ถนน ช็อบปิ้งสุดฮิตของฮาราจูกุ จะพบกับวัยรุ่นที่แต่งตัวด้วยชุดอันร้อนแรงบวกกับสีสันอันเจิดจ้า นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ที่วัยรุ่นจะนิยมแต่งตัวแรงๆ เพื่อมาประชันกัน คล้ายๆ กับสยามสแควร์ บ้านเรา ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาที่นี้จะนิยมถ่ายรูปกับวัยรุ่นที่แต่งตัวแรงๆ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่า ครั้งหนึ่งได้มาเหยียบมาฮาราจูกุแล้ว หากใครมาแล้ว ไม่พบวัยรุ่นที่แต่งตัวแรงๆ ก็ เหมือนมาไม่ถึงฮาราจูกุ |
![]() | Rainbow Bridge เป็นอีกหนึ่งงานก่อสร้างที่เด่นสะดุดตาในอ่าวโตเกียว มีนักท่องเที่ยวมาแวะชมกันจำนวนมากอีกเช่นกัน ยามค่ำคืนแสงไฟที่ใช้ประดับสะพานสร้างบรรยากาศแสนโรแมนติกไปอีก แบบหนึ่ง จนมีคู่หนุ่มสาวจำนวนมากมาสวีทหวานแหววกับธรรมชาติวิวริมน้ำอย่างนี้กัน เป็นประจำ |
| Tokyo Disneyland ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของโตเกียว ภายในจะมีสวนสนุกอยู่ 2 แห่งคือ Disneyland จะมีเครื่องเล่นที่ค่อนข้างหวาดเสียว และ DisneySea จะมีเครื่องเล่นที่ เหมาะกับเด็กมากกว่า เปิด วันธรรมดา 09.00 น.-22.00 น. วันหยุดเสาร์- อาทิตย์ 08.00 น.- 22.00 น.
|
![]() ![]() | ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาไฟฟูจินี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเรียกภูเขาไฟฟูจิว่า ฟูจิซัง ความสูงราว3,776 เมตร ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะ และจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโตเกียว บริเวณโดยรอบภูเขาไฟฟูจิมีสวนสาธารณะ มีสถานที่ว่ายน้ำ อาบน้ำ มี ทะเลสาบกว้างใหญ่ และทัศนียภาพที่งดงาม ชาวญี่ปุ่นทุกคนต้องดินทางมาเที่ยวที่ภูเขาไฟนี้อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนยอดเขา การที่ปีน ภูเขาไฟฟูจิในตอนกลางคืนเพราะเมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วเราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ซึ่งสวยงามมากและรอบๆฟูจิซังจะมีทะเลสาบอยู่ห้าแห่ง ทะเลสาบที่ค่อนข้างมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมากที่สุดก็คือทะเลสาบที่ชื่อว่าฮาโกเนะ ซึ่งบริเวณนั้นจะมีจุดท่องเที่ยวหลายๆแห่งให้เราแวะเข้าไปเที่ยวชม และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ทำนอกเหนือไปจากการมองเห็นฟูจิซังแบบใกล้ๆเต็มๆตา อย่างเช่นการนั่งเรือข้ามทะเลสาบ นั่งโรปเวย์ข้ามภูเขา นั่งรถ ราง มีพิพิธภัณฑ์ มีเหมืองแร่ และน้ำพุร้อนที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้ การเดินทางจาก โตเกียวไปยังฮาโกเนะก็ไม่ยากเลย มีทั้งรถไฟ รถบัส แต่ทางที่สะดวกก็คงจะเป็นรถไฟซึ่ง มีตลอดเวลา |
อาหารการกิน
อาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในด้านความสดอร่อย และความสวยงามในการตกแต่ง รวมทั้งความหลากหลาย อาหารที่เป็นที่นิยมของที่นี่ ได้แก่ โอโคโนมิยากิ หรือ พิซซ่าญี่ปุ่น ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชิมเมื่อมาเยือนฮิโรชิมา รวมทั้งร้านราเมนต่างๆ ที่เปิดจนดึกดื่น และหอยนางรมที่ขึ้นชื่อมานานนับศตวรรษ โดยสามารถหารับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูหนาว
รายการช้อปปิ้ง
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์, กล้องถ่ายรูป, แว่นตา, นาฬิกา, เครื่องสำอาง, ชาเขียว, ชุดยูคาตะ เป็นต้น
เทศกาลสำคัญ
- เทศกาลปีใหม่ : เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ชาวญี่ปุ่นจะรับประทานโมจิ หรือซุปโมจิ และจะไปไหว้พระขอพรที่วัด หลังจากนั้นก็จะนำต้นไม้ชื่อมัทซึ มาวางไว้ที่หน้าบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว และประดับด้วยไม้ไผ่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่หมายถึงความซื่อตรง ซื่อสัตย์ เหมือนลำไผ่ และความอ่อนน้อมแต่แข็งแรงเหมือนต้นไผ่ซึ่งทนทานต่อสภาพอากาศ
- เทศกาลเซ็ตสึบุน : ชาวญี่ปุ่นจะนำถั่วแดงโปรยในบ้านและบริเวณนอกบ้านเพื่อไล่สิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในบ้าน หลังจากนั้นก็จะรับประทานเมล็ดถั่วแดงจำนวนเท่ากับอายุของตนเอง เพราะเชื่อว่ารับประทานแล้วจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
- เทศกาลวันเด็กผู้หญิง หรือ "ฮินะมัทสึริ" : บ้านที่มีบุตรสาวจะนำตุ๊กตามาตั้งไว้ในบ้านเพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสุข
- เทศกาลวันเด็กผู้ชาย : คือวันที่ 5 พฤษภาคม เทศกาลนี้จัดขี้นสำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น บ้านไหนที่มีลูกชายจะประดับว่าวปลาคาร์ฟยาว 1-2 เมตรให้ปลิวไสวตามจำนวนบุตรชาย ในบ้านมีการจัดพิธีบูชาตุ๊กตานักรบ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อเกราะ หมวกเกราะหรือที่เรียกว่า “โกะงัสสึ นิงเงียว”เพื่ออธิษฐานขอให้บุตรชายที่รักมีสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยังมีการใช้ดอกโชบุและดอกคะชิวะและโมะติ ประดับไว้กับตุ๊กตานักรบที่ชื่อว่า Kabuto และมีการดื่มสาเกฉลองเช่นเดียวกับเทศกาลวันเด็กผู้หญิง
- เทศกาลโอะฮานามิ (Ohanami) : เป็นเทศกาลชมดอกซากุระ จัดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือน-กลางเดือนเมษายน เป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ชาวญี่ปุ่นจะพากันออกมาชมความงามของดอกซากุระ ซึ่งพร้อมใจกันบานสะพรั่งรับฤดูใบไม้ผลิเป็นสีชมพูตลอดทาง
- เทศกาลหิมะ Snow Festival : จัดที่ Sapporo ทุกเดือนกุมภาพันธ์ อากาศที่หนาวเย็น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่เมืองซับโปโร บนเกาะฮอกไกโด เพื่อร่วมสนุกสนานกับเทศกาลหิมะ


![]() | |||
![]() Government Building ทำเนียบรัฐบาลเก่าฮอกไกโด เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2416 เป็นอาคารในสไตล์นีโอบาร็อคอเมริกา โดยลอกแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา โดยใช้อิฐไปจำนวนมากกว่า 2.5 ล้านก้อน | ![]() น้ำตกริวเซ-กิงกะ ชมความงดงามของน้ำตก ที่ถูกจัดให้เป็นที่สุดของวิวธรรมชาติติดหนึ่งในร้อยของญี่ปุ่น น้ำตกทั้งสองแห่งนี้อยู่ในเขตภูเขาโซอุนเคียว ในฤดูหนาวน้ำตกทั้งสองนี้จะแข็งตัวกลายเป็นน้ำแข็ง | ||
![]() ทะเลสาบมาชู ที่นี่ได้้รับการยกย่องให้เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งใส จะได้สัมผัสกับความงดงามของท้องน้ำสีฟ้าสดใสราวกับอัญมณี โดยมีเทือกเขาอันสวยงามเป็นฉากหลัง | ![]() Brown Bear Park สถานที่อนุรักษ์หมีสีน้ำตาลพันธุ์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบันจะพบแต่บนเกาะฮอกไกโด เกาะซาคาริน และหมู่เกาะคูรินของรัสเซียเท่านั้น | ||
![]() Io Mountain ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่มีภูเขาไฟจำนวนมากรายล้อมตลอดแหลมชิเระโตะโกะ ที่บริเวณนี้มีออนเซ็นอยู่มากมาย ความหลากหลายของออนเซ็นทำให้คาบสมุทรแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง | ![]() นั่งเรือตัดน้ำแข็ง เรือที่มีขนาดใหญ่จะทำหน้าที่ในการตัดน้ำแข็งที่ลอยเกาะอยู่เหนือผิวน้ำ ท่านจะได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศอันหนาวเย็นท่ามกลางท้องทะเล ที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง | ||
![]() Akan Lake ทะเลสาบอันสวยงามใน อุทยานแห่งชาติอะคัง ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าสาหร่ายมาริโม พืชน้ำพันธุ์หายากเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและความสะอาดของน้ำซึ่งมีอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ | ![]() ตลาดอาบาชิริ ตลาดขายอาหารทะเล ที่มีทั้งของสด ของแห้ง โดยในช่วงที่มีอากาศหนาวมาก ๆ อย่างเดือนมกราคมและเดือนมีนาคม เนื้อของสัตว์ทะเลเหล่านี้จะยิ่งหวานอร่อย | ||
![]() นกกระเรียนหงอนแดง นกท้องถิ่นใกล้สูญพันธุ์ อาศัยอยู่แถบฮอกไกโดตะวันออก ซึ่งถือว่าฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่สามารถพบเห็นนกชนิดนี้ได้มากที่สุด | ![]() Odori Park สวนโอโดริ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตัดผ่านกลางเมืองซัปโปโร ประดับประดาดัวยพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่นี่มีฮอกไกโดทาวเวอร์ และอนุสาวรีย์รูปปั้นคนเต้นรำเป็นสัญลักษณ์ |
พิพิธภัณฑ์แมวน้ำ (Okhotsk Tokkari Center) พิพิธภัณฑ์แมวน้ำ Okhotsk Tokkari Center หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Goma Chan Land ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของแมวน้ำ สัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ โดยที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมวน้ำแล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับให้การรักษาแมวน้ำที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงมีการจัดแสดงโชว์ความน่ารักของเหล่าแม่น้ำอีกด้วย ![]() ![]()
พิพิธภัณฑ์ธารน้ำแข็ง (Okhotsk Ryuhyo Museum) พิพิธภัณฑ์ธารน้ำแข็ง ซึ่งมีการจัดแสดงธารน้ำแข็ง ที่เก็บรวบรวมมาไว้เพื่อการศึกษาวิเคราะห์ระบบนิเวศน์วิทยาการมาของธารน้ำแข็งที่มีผลต่อชาวเมืองแถบชายฝั่งทะเลโอคอตสก์ ที่มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือท้องทะเลของเมืองอาบาชิริ ซึ่งจะเริ่มมีธารน้ำแข็งหนาตาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมและจะค่อยๆละลายหายไปราวเดือนมีนาคมจนถึงกลางเดือนเมษายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี ![]() ![]()
จุดชมวิวฮิทซึจิงะโอกะ (Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill) จุดชมวิวฮิทซึจิงะโอกะ อยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร มองลงมาเห็นซัปโปโรได้ทั้งเมือง บนเนินเขามีอนุสาวรีย์ของดร.คล้าก (Dr. William Smith Clark) ครูฝรั่งผู้นี้เป็นที่รู้จักกันดีของคนฮอกไกโด เป็นครูผู้มีบทบาทที่สุดในช่วงการพัฒนาเกาะฮอกไกโด ทั้งในด้านการศึกษาและคริสต์ศาสนา เป็นชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งวิทยาลัยการเกษตรซัปโปโร ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ที่ฐานรูปปั้นมีคำว่า “Boys Be Ambitious” สลักไว้ ซึ่งก็คือประโยคอมตะที่ท่านได้เคยพูดสั่งสอนลูกศิษย์เอาไว้ให้เป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยาน “เด็ก ๆ ต้องคิดให้ใหญ่ไม่คิดเล็ก” อนุสาวรีย์สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2519 เพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในโอกาสครบ 150 ปีวันเกิดของท่าน ให้เป็นแบบอย่างเยาวชนคนรุ่นหลัง เป็นสถานที่ที่คุณครูมักจะพานักเรียนนักศึกษาขึ้นมาทัศนศึกษาและถ่ายรูปคู่กับท่าน ![]() คลองโอตารุเป็นสถานที่นิยม ของนักท่องเที่ยวชาวเมืองซัปโปโร เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวก ห่างตัวเมืองซัปโปโรไม่ไกลนัก เมืองโอตารุเป็นเมืองท่าที่อยู่ติดกับทะเล ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ เป็นเมืองที่มีคลองล้อมรอบ บรรยากาศพร้อมธรรมชาติที่เย็นกำลังดี ตอนกลางคืนจะเปิดไฟ เพื่อให้เป็นที่เหมาะสำหรับคู่หนุ่มสาว มาออกเดตด้วยกัน หรือได้ชมความงดงาม ในอีกบรรยากาศหนึ่งของโอตารุอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในโอตารุ ![]() หอนาฬิกาไอน้ำโบราณ นาฬิกาไอน้ำโบราณ มีเพียงสองเรือนในโลก (อีกที่อยู่แคนาดา) ซึ่งจะส่งเสียงเป็นเมโลดี้ และพ่นไอน้ำออกมาเพื่อบอกเวลา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายคู่รูปในจังหวะที่มีไอน้ำพวยพุ่งออกมา ![]() พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ไว้จัดแสดงและจำหน่ายของที่ระลึกเกี่ยวกับดนตรี เช่นหีบเพลง ตุ๊กตาเซรามิก และมีบริการนำเพลงจากกล่องดนตรีใส่ซีดีส่งโปสการ์ดให้ด้วย | ||
พิพิธภัณฑ์เกล็ดหิมะ (Ice Pavillion) ภายในพิพิธภัณฑ์เกล็ดหิมะแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศจำลองหน้าหนาวในฮอกไกโดได้เป็นอย่างด เพราะภายในถูกควบคุมด้วยอุณหภูมิ -20 องศา เพื่อไม่ให้เกล็ดน้ำแข็งละลาย จุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยคือ ห้องที่สามารถให้นักท่องเที่ยวได้ท้าทายและสัมผัสห้องที่หนาวที่สุดด้วยอุณหภูมิต่ำถึง -41 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เคยหนาวที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องห่วง ที่นี่มีเสื้อกันหนาวแบบชนิดพิเศษให้ยืมโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ![]() ![]() ![]() |